sale@omc.co.th     Phone: 0991095544

5 Step รับมืออุบัติเหตุรถชนแบบชิวๆ จบในไม่กี่ขั้นตอน!

สวัสดีครับทุกคน! ไม่ว่าจะเป็นสายซิ่ง สายชิลล์ หรือสายไหนๆ ที่ใช้รถใช้ถนนกันอยู่ทุกวัน สิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดเลยก็คือ “อุบัติเหตุ” ใช่ไหมครับ? แต่ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ 100% สิ่งที่เราทำได้คือ “เตรียมพร้อม” และ “รู้ว่าต้องทำอะไร” เพื่อให้เหตุการณ์ไม่บานปลาย และได้รับความคุ้มครองอย่างเต็มที่

วันนี้ OMC Broker ในฐานะเพื่อนซี้เรื่องประกันภัย จะมาสรุปขั้นตอนสำคัญที่ต้องทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชนแบบสั้นๆ กระชับๆ เข้าใจง่าย เพื่อให้คุณไม่ลนลาน และรับมือสถานการณ์ได้อย่างมือโปร มาดูกันเลย!

Step 0 สูดหายใจลึกๆ ตั้งสติให้มั่น!

อันดับแรกเลยคือ “ใจเย็นๆ” ครับ! หลายคนอาจจะตกใจ ตื่นเต้น โมโห หรือสารพัดอารมณ์ที่ประดังเข้ามา แต่การตั้งสติได้เร็ว จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น และจัดการสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

Step 1 ปลอดภัยไว้ก่อน
  • สำคัญมาก ไม่ว่ากรณีไหนๆ ก็ตาม ห้ามมีปากเสียง ทะเลาะวิวาท หรือลงไม้ลงมือกับคู่กรณีเด็ดขาด! เก็บข้อมูลเท่าที่จำเป็น และรอเจ้าหน้าที่ประกันภัย/ตำรวจจัดการ
  • ถ้าเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย รถยังเคลื่อนย้ายได้ และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ให้รีบเคลื่อนย้ายรถไปจอดในที่ปลอดภัยริมทาง หรือไหล่ทาง เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจร และป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
  • ถ้าเกิดอุบัติเหตุรุนแรง รถเคลื่อนย้ายไม่ได้ มีผู้บาดเจ็บ หรืออยู่ในจุดอันตราย ห้ามขยับรถเด็ดขาด! ให้เปิดไฟฉุกเฉิน วางป้ายเตือนสามเหลี่ยม หรือหาอะไรมาตั้งเป็นสัญญาณเตือนให้ผู้ร่วมทางคนอื่นทราบ และโทรเรียกหน่วยฉุกเฉิน (กู้ภัย, ตำรวจ) ทันที
Step 2 เก็บหลักฐานให้ครบ

ยุคนี้มือถือคือสิ่งจำเป็น! นอกจากใช้เล่นโซเชียลแล้ว ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการเก็บหลักฐานเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

  • ถ่ายรูปให้เยอะที่สุด ถ่ายรูปสภาพความเสียหายของรถทั้งสองคัน (หรือหลายคัน) จากหลายๆ มุม รวมถึงร่องรอยการชนบนพื้นผิวถนน ตำแหน่งการชน จุดเกิดเหตุโดยรวม และสภาพแวดล้อมรอบข้าง
  • ถ่ายรูปป้ายทะเบียนรถคู่กรณี สำคัญมาก! เพื่อใช้ยืนยันตัวตน
  • ถ่ายรูปใบขับขี่ บัตรประชาชน ของคู่กรณี (ถ้าเป็นไปได้) ถ้าคู่กรณีให้ความร่วมมือ ก็จะช่วยให้ข้อมูลครบถ้วนยิ่งขึ้น
  • ถ่ายรูปบุคคลที่สาม (ถ้ามี) หากมีพยานในที่เกิดเหตุ ขอถ่ายรูปและเบอร์ติดต่อไว้ด้วยก็ดีครับ
  • บันทึกวิดีโอ (ถ้าทำได้) จะช่วยให้เห็นภาพรวมของเหตุการณ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • จดรายละเอียด วันที่ เวลา สถานที่เกิดเหตุ ทิศทางการเดินรถ ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ และข้อมูลประกันภัยของคู่กรณี
Step 3 โทรแจ้งประกันทันที

เมื่อเก็บหลักฐานเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่สำคัญที่สุดคือ “โทรแจ้งบริษัทประกันภัยของคุณ” ครับ!

  • เตรียมข้อมูลให้พร้อม บอกรายละเอียดที่เกิดขึ้น วันที่ เวลา สถานที่ รถของคุณและคู่กรณี (ถ้ามี) เป็นรถอะไร ทะเบียนอะไร มีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่
  • แจ้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อกลับ และส่งเจ้าหน้าที่สำรวจภัย (Surveyor) มายังจุดเกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว
  • รอเจ้าหน้าที่สำรวจภัย เมื่อแจ้งเรื่องแล้ว เจ้าหน้าที่จะแนะนำขั้นตอนต่อไป และรอให้เจ้าหน้าที่สำรวจภัยมาถึงจุดเกิดเหตุเพื่อดำเนินการตรวจสอบ ประเมินความเสียหาย และออกใบเคลม

OMC Broker ขอแนะนำ เซฟเบอร์ Call Center ของบริษัทประกันภัยที่คุณใช้อยู่ไว้ในมือถือเลยครับ จะได้โทรหาได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน! หรือถ้าจำไม่ได้ โทรหา OMC Broker ได้เลย เรายินดีให้คำแนะนำและประสานงานให้คุณครับ

Step 4 รอเจ้าหน้าที่มาเคลียร์

เมื่อเจ้าหน้าที่สำรวจภัยมาถึง พวกเขาจะเป็นผู้ดำเนินการหลักในการจัดการเหตุการณ์

  • ให้ข้อมูลตามความจริง เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง ตอบคำถามที่เจ้าหน้าที่สอบถาม
  • ให้ดูหลักฐานที่เก็บไว้ แสดงรูปถ่าย วิดีโอ หรือข้อมูลอื่นๆ ที่คุณบันทึกไว้ เพื่อประกอบการพิจารณา
  • เซ็นใบเคลม เมื่อเจ้าหน้าที่ประเมินความเสียหายและออกใบเคลมเรียบร้อยแล้ว ให้ตรวจสอบรายละเอียดให้ถูกต้อง ก่อนลงนาม
  • สำคัญมาก อย่าเพิ่งตกลงเรื่องค่าเสียหาย หรือยอมรับผิดใดๆ กับคู่กรณีเองเด็ดขาด! ให้เป็นหน้าที่ของบริษัทประกันภัยเป็นผู้เจรจาและจัดการตามเงื่อนไขกรมธรรม์
Step 5 ตรวจสอบและติดตามผล

หลังจากเกิดเหตุและมีการออกใบเคลมเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะจบแค่นั้นนะครับ เราต้องติดตามเรื่องต่อด้วย!

  • นำรถเข้าซ่อม นำรถเข้าอู่ซ่อมที่อยู่ในเครือข่ายของบริษัทประกันภัย หรืออู่ที่คุณต้องการ (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
  • ติดตามความคืบหน้า สามารถโทรสอบถามความคืบหน้าการซ่อมกับอู่ หรือติดต่อบริษัทประกันภัยเพื่อสอบถามสถานะการเคลมได้
  • ตรวจสอบความเสียหายก่อนรับรถ เมื่อรถซ่อมเสร็จ ก่อนรับรถกลับ อย่าลืมตรวจสอบความเรียบร้อยของงานซ่อมให้ละเอียดถี่ถ้วน
สรุปสั้นๆ (ฉบับจำง่าย)
  1. ตั้งสติ!
  2. ปลอดภัยไว้ก่อน! (เคลื่อนย้ายรถถ้าทำได้ / ห้ามขยับถ้าอันตราย)
  3. ถ่ายรูป! (หลักฐานสำคัญ)
  4. โทรแจ้งประกัน! (ประสานงาน Call Center )
  5. รอเจ้าหน้าที่! (อย่าเพิ่งตกลงเอง)
  6. ติดตามงาน! (เช็คสิทธิ์ตัวเอง)
ประกันภัยรถยนต์สำคัญแค่ไหน?

ในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันอย่างอุบัติเหตุ การมีประกันภัยรถยนต์ที่ครอบคลุมและเหมาะสม ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

  • ลดภาระทางการเงิน ไม่ต้องควักเงินก้อนโตเพื่อซ่อมรถยนต์ หรือชดเชยค่าเสียหายให้กับคู่กรณี
  • อุ่นใจทุกเส้นทาง มีผู้เชี่ยวชาญช่วยจัดการเรื่องยุ่งยากเมื่อเกิดเหตุ
  • ครอบคลุมความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อรถยนต์ของคุณ คู่กรณี หรือบุคคลภายนอก (ตามประเภทกรมธรรม์)
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน บางกรมธรรม์มีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน เช่น รถลาก บริการช่างซ่อมฉุกเฉิน ณ จุดเกิดเหตุ ซึ่งมีประโยชน์มาก

การมีประกันภัยรถยนต์เป็นเหมือนเกราะป้องกันที่ช่วยให้คุณอุ่นใจ และลดความกังวลเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน OMC Broker พร้อมให้คำปรึกษาและเลือกสรรประกันภัยรถยนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นประกันชั้น 1, ชั้น 2+, ชั้น 3+ หรือประกันประเภทอื่นๆ เราพร้อมดูแลคุณตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะความปลอดภัยของคุณคือสิ่งที่เราใส่ใจที่สุด!

สนใจประกันรถยนต์ ติดต่อ OMC Broker ได้เลย!

OMC Broker โบรกเกอร์มืออาชีพที่รวมประกันรถยนต์จากทุกบริษัทชั้นนำของประเทศไทยไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นวิริยะ กรุงเทพ รู้ใจ ธนชาต และบริษัทชั้นนำอีกมากมาย เราคัดสรรแผนประกันที่ครอบคลุมและคุ้มค่าที่สุดให้คุณเปรียบเทียบได้อย่างโปร่งใส พร้อมทีมที่ปรึกษาคอยแนะนำแบบเป็นกลาง เพื่อให้คุณได้ประกันที่ตรงความต้องการและงบประมาณ ทั้งหมดนี้ทำได้ง่าย ๆ ผ่านระบบออนไลน์ที่สะดวก ปลอดภัย และรวดเร็ว ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องเสียเวลา เพราะ OMC Broker พร้อมดูแลให้ทุกขั้นตอน จบครบในที่เดียว!